T shape model จ๋าฉันไปถุกทางรึป่าวนะ ?

Sippakorn Raksakiart
1 min readApr 8, 2021

--

สวัสดี “ตัวT”

เมื่อประมาณ 3 ปีก่อนที่ได้ยินคำว่า T Shape model ครั้งแรกก็รู้สึกว่าว้าวมากกก แบบ…คนเราจริงๆแล้วควรจะรู้อะไรแน่นๆซักอย่างเหมือนแกนกลางของตัว T และควรจะรู้เรื่องอื่นๆเป็นแนวกว้างด้วยเหมือนหัวของตัว T ตอนนั้นฟังแล้วก็แบบว้าวววววววมาก

แบบเออแมร่งดีวะการที่เรารู้เรื่องนึงเยอะๆลึกๆไปเลยและรู้กว้างๆด้วยในเรื่องอื่นๆ เช่น เราเขียนโปรแกรมเก่งมาก แต่ก็มีความรู้ด้านการตลาด ด้านการจัดการ หรือเรื่องอื่นๆด้วย เราจะได้คุยกับฝ่ายอื่นๆในองค์กรได้ เราจะได้เห็นภาพกว้างได้ จะได้เชื่อมโยงได้……

จากเรื่องนี้ก็เห็นหลายๆที่ หลายๆ บ. หลายๆองค์กร พยายามทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ความเป็นจริงมันอาจไม่ได้ง่ายขนาดนั้นและไม่ดีดีขนาดนั้น(รึป่าว?)

ตัวอย่างเช่น ….

Developer คนนึงเก่งการเขียนโปรแกรมมากๆ ซึ่งองค์กรที่เขาอยู่ก็อยากพัฒนาให้เขาเก่งในด้านอื่นๆด้วยตาม T shape model โดยการให้เขาดูเรื่อง infrastructure ด้วย เวลาผ่านไปเขาก็รู้เรื่อง infrastructure มากขึ้นหลังจากนั้นองค์กรของเขาก็อยากให้เขารู้เรื่องด้าน team management ด้วยโดยการให้เขาทดลองทำงาน team management มากขึ้น พอเวลาผ่านไป Developer คนนี้ก็มีทั้ง skill coding infra และ mangement ซึ่งตอนนี้ตัว T ของ dev คนนี้ก็เริ่มกว้างขึ้นตาม step 1 2 3 4 ในรูป และทางองค์กรก็เริ่มรู้สึกเห็นข้อดีของ T shape model เพราะ dev คนนี้ทั้ง code ได้ จัดการทีมได้ ดูเรื่อง infrastructure ได้ โห่มันสุดยอดไปเลยเพ่ !!!! ทางองค์กรเลยทำตามเวย์เดิมต่อ โดยการให้ dev คนนี้รู้เรื่อง งานขาย (sale) มากขึ้น รู้เรื่อง biz มากขึ้น รู้เรื่องเอกสาร รู้เรื่องการเงินมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ตัว T ของ dev คนนี้อาจอยู่ใน step ที่ 5 ตามรุปข้างล่างแล้ว พอถึงตอนนี้อาจฟังดูดีแต่หากลองดูตามตัว T ใน step ที่ 5 ตอนนี้ตัว T ของ dev คนนี้ช่างดูประหลาด ฐานตัว T ของเขาช่างดูไม่แข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักหัวของตัว T ได้เลย ซึ่งพอ dev คนนี้รู้รู้หลายๆเรื่องแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือเขาถูกเป็นที่ต้องการและถูกขอความช่วยเหลือจากหลายๆคนใน บ. ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะทีม dev ที่เป็นทีมของเขาแล้ว เขาถูกฝั่ง biz ขอให้ช่วยเหลือหลายๆเรื่อง เขาถูกฝ่ายอื่นๆในองค์กรขอให้ไปช่วยขอให้เขาไปให้คำแนะนำในหลายๆเรื่อง จนเขาไม่มีเวลาพอที่จะทำงานในสิ่งที่เขา “เคย” เชี่ยวชาญและชอบที่จะมัน สิ่งที่เหิดขึ้นคือพอขาของตัว T ไม่แข็งพอวันนึงเขาก็จะล้มหรืออาจวิ่งหนีจากองค์กรนี้ไปเพื่อกลับไปทำสิ่งที่เขาชอบหรือกลับไปพัฒนาขาของตัว T เขาให้แข็งแรงพอที่จะพยุงหัวของตัว T เขาก็ได้

จากตัวอย่าง dev คนนี้ผมก็ realize ได้ว่า T shape model ก็คือสิ่งที่ดีแต่ทุกๆอย่างควรจะมีตรงกลางและควรจะทำอย่างพอดี เราพัฒนาหัวของตัว T ได้แต่ก็ควรพัฒนาขาของตัว T ด้วย และที่สำคัญคือไม่ควรลืมว่าสิ่งที่เขาทำได้ดีและเขาแข็งที่สุดก็คือขาของตัว T นั้นเอง

--

--